วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

Lesson 4

Recent Posts
Science Experiences Management for Early Childhood

12 September 2014
Time 13:00 to 16:40 pm.


ความรู้ที่ได้รับ





 ทักษะการสังเกต
ทักษะการจำแนกประเภท
 ทักษะการวัด
 ทักษะการสื่อความหมาย
 ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเวลา
แนวคิดการสอนวิทยาศาสตร์ เทคนิคพ่อแม่
ทักษะทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย 
            เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็นต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นวัยที่มีการพัฒนาทางสติปัญญา สูงที่สุดของชีวิต ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เป็นทักษะที่ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยสามารถคิดหา เหตุผล แสวงหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาได้ ตามวัยของเด็ก ควรจัดกิจกรรมให้เด็ก ได้ลงมือกระทำด้วยตนเองจากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว
      ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ อันเป็นกระบวนการขั้นพื้นฐานหรือทักษะเบื้องต้นที่ควรส่งเสริมให้เด็กปฐมวัย ได้รับการพัฒนา มี 7 ทักษะกระบวนการ คือ
ปส , สเปสกับเวลา
 ทักษะการคำนวณ


สรุปบทความเรื่องที่ 1 การจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

  การสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเป็นการสอนข้อความรู้  ซึ่งต่างจากการสอนให้รู้ข้อความรู้ตรงที่การสอนข้อความรู้ต้องการความสนใจ  การสังเกต  การจำ  และการเรียกความจำจากความเข้าใจถ่ายโยงได้  ไม่ใช่การท่องจำซึ่งตรงกับการเรียนวิทยาศาสตร์ที่เป็นการเรียนรู้จากการให้คิดและมีเหตุผล  เกิดการเข้าใจมโนทัศน์  เชื่อสานข้อมูลประยุกต์  และสรุปเป็นข้อความรู้ได้ด้วยตนเอง  ซึ่งในการเรียนวิทยาศาสตร์เด็กต้องพัฒนาทักษะการคิดเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปให้ได้  ตัวอย่าง  เช่น  เด็กเรียนเรื่องเต่ากับหนู  โดยการศึกษาเปรียบเทียบ  ค้นหาข้อแตกต่างและข้อเหมือน  และนำไปสู่ข้อสรุปว่า  เต่ามีลักษณะอย่างไร  หนูมีลักษณะอย่างไร  (Hendrick,  1998  :  42)  ดังนั้นการเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยจึงมิใช่การสอนให้รู้ข้อความรู้  เพราะเด็กไม่สามารถรับความรู้นามธรรมได้  เด็กปฐมวัยต้องเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากประสบการณ์
การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กและธรรมชาติเป็นสาระหลักสำหรับเด็กปฐมวัยในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  ดร.ดินา  สตาเคิล  (Dina  Stachel)  ของมหาวิทยาลัยเทอาวีพ  ประเทศอิสราเอล  ได้พัฒนาโปรแกรมมาทาลขึ้น  เพื่อใช้ในการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย  โดยเน้นให้เด็กมีความสนุกกับการเรียน  รู้จักสร้างสรรค์และคิดสร้างสรรค์  สาระวิทยาศาสตร์ที่เด็กเรียนจำแนกเป็น  4  หน่วย  ดังนี้
 (สตาเคิล,  2542  :  12)
 หน่วยที่  1     การสังเกตโลกรอบตัว
 หน่วยที่  2     การรับรู้ทางประสาทสัมผัสและการเรียนรู้
 หน่วยที่  3     รู้ทรงและสิ่งที่เกี่ยวข้อง
 หน่วยที่  4     การจัดหมู่และการจำแนกประเภท
          ในการเรียนหน่วยวิทยาศาสตร์ทั้ง  4  หน่วยดังกล่าว  เด็กต้องใช้ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์  ได้แก่  ทักษะการสังเกต  การจำแนกประเภท  การสื่อความหมายและทักษะการลงความเห็นการเรียนวิทยาศาสตร์ไม่ใช่การเปรียบเทียบมิติเดียวเหมือนอย่างเช่นคณิตศาสตร์  แต่การเรียนวิทยาศาสตร์เป็นการเรียนเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อหาข้อสรุปคำตอบ  ซึ่งเด็กสามารถเรียนรู้วิทยาศาสตร์รอบตัวได้  หากครูจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับพัฒนาการเด็ก


สรุปบทความเรื่องที่ 2 วิทยาศาสตร์และการทดลอง

ไข่เอย....จงนิ่ม





 สิ่งที่ต้องใช้
·         แก้ว 1 ใบ
·         ไข่ไก่ 1 ฟอง
·         น้ำส้มสายชู
วิธีทดลอง
·         นำไข่ไก่ใส่ลงไปในแก้ว
·         เทน้ำส้มสายชูลงไปให้ท่วมไข่
·         ทิ้งไว้ 1 คืน  อดใจรอนะพอตอนเช้าเทน้ำออกก็แล้วลองจับไข่ดูซิ..
เพราะอะไรกันนะ

น้ำส้มสายชูเป็นสารเคมีประเภทกรดอินทรีย์ ได้แก่ กรดน้ำส้มหรือกรดอะซิติก ซึ่งสามารถละลายแคลเซียมได้ เปลือกไข่มีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เปลือกไข่แข็ง  เมื่อถูกละลายหายไป เปลือกไข่จึงนิ่ม
กระดูกเรา ก็มีแคลเซียมเช่นกัน คราวหน้าเพื่อนๆกิน KFC.แล้วเอากระดูกไก่ มาทดลองดูนะว่าเป็นอย่างไร



สรุปบทความเรื่องที่ 3 เรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านนิทานสำหรับเด็กปฐมวัย เทคนิคการเลือกและเล่านิทาน


 นิทานเป็นสื่อที่เราเห็นทั่วไป เป็นสื่อการเรียนรู้ที่หาง่าย ส่วนใหญ่นำเอามาเล่าให้เด็กฟังเพื่อความเพลิดเพลินก็จบไป แต่ที่จริงแล้วนิทานเป็นสื่อที่ดีให้เด็กๆได้เรียนรู้ที่หลากหลาย ที่เห็นชัดเจน คือ เรื่องของภาษา คำพูด เสียง ยิ่งนิทานที่มีคำซ้ำๆเด็กจะฟังและเลียนแบบคำได้
นอกจากนี้ก็ยังมีความคิดสร้างสรรค์ มีวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และความรู้ด้านต่างๆสอดแทรกผ่านวิธีการคิดที่เป็นเหตุผล เช่น ในนิทานเรื่องลูกหมู 3 ตัว ได้สอดแทรกเรื่องเกี่ยวกับวิธีการสร้างบ้าน ลำดับ พื้นที่ ทิศทาง ซึ่งครูหรือผู้เล่านิทาน จะต้องมาเลือกดูว่าต้องการให้เด็กเรียนรู้ในด้านใด แล้วเด็กก็จะได้ประสบการณ์จากตรงนั้น
เทคนิคการเลือกนอทานให้เด็ก ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัย เช่าน เด็กเล็ก เริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่เขาชอบ เช่น สัตว์ ธรรมชาติ ภาพน่ารักๆ เลือกสีสันและเนื้อหาที่ไม่ยาวเกินไป
เทคนิคการเล่านิทาน ในการเล่านิทาน จะต้องสร้างอารมณ์ร่วมในขณะที่เล่า มีการใช้โทนเสียงเวลาเล่า ปล่อยให้เด็กได้ใช้ความคิดไปกับผู้เล่าในขณะที่ฟังนิทาน การใช้เสียงต่างๆจะทำให้เด็กได้สังเกตอารมณ์ของการใช้เสียง..


ประยุกต์ใช้อย่างไร

 -สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาในการสอนเด็กปฐมวัยในอนาคตได้ โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยที่อยู่สิ่งรอบๆตัวเด็ก เช่น สัตว์ ธรรมชาติ เป็นต้น
-สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเรียนรู้ต่อไปได้ และเป็นแนวทางในการจัดหน่วยการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
-ทำให้รู้ในการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี


การประเมินผล

ประเมินตนเอง : ตั้งใจฟังและจับประเด็นที่เพื่อนนำเสนอบทความได้เป็นอย่างดี และตั้งใจจดบันทึกในสิ่งที่อาจารย์เพิ่มเติมและสรุปบทความที่เพื่อนนำมาเสนอหน้าชั้นเรียน แต่งกายเรียบร้อย มาเรียนตรงเวลา มีส่วนรวมในกิจกรรมชั้นเรียน คือ การตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น

ประเมินเพื่อน : เพื่อนเตรียมบทความที่จะมานำเสนอได้เป็นอย่างดี มีความพร้อมที่จะนำเสนอได้ดี แต่งกายเรียบร้อย วางรองเท้าเป็นระเบียบ ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนอบทความและสิ่งที่อาจารย์สอนได้เป็นอย่างดี

ประเมินอาจารย์ :  วันนี้อาจารย์สอนโดยมีวิธีการสอนที่หลากหลาย มีการขยายเนื้อหาเพิ่มเติมและสรุปบทความที่เพื่อนนำเสนอหน้าชั้นเรียนได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น และอาจารย์ได้ตรวจBloggerของนักศึกษาที่ได้ลิงค์กับอาจารย์ไปบ้างแล้วบางคน และได้เสนอแนะสิ่งที่ยังขาดตกบกพร่อง






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น